ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ

วิธีคาดการณ์แนวโน้ม (เทรนด์) Forex

การเทรด Forex เป็นหนึ่งในตลาดการลงทุนที่เข้าถึงง่ายและมีปริมาณการซื้อขายสูงเมื่อเทียบกับตลาดการเงินอื่นๆ เป็นที่นิยมของเทรดเดอร์ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีประสบการณ์การเทรดมาก่อนก็ตาม โดยนักลงทุนจะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจวิธีคาดการณ์ และจับแนวโน้มในการเทรด Forex

None

ในฐานะนักเทรด FX ท่านจะต้องซื้อและขายคู่สกุลเงินต่างๆ โดยเป็นการนำสกุลเงินหนึ่งมาเปรียบเทียบในการแลกเปลี่ยนกับอีกสกุลเงินหนึ่งในอัตราแลกเปลี่ยนเฉพาะของแต่ละสกุลเงิน เช่นเดียวกับตราสารอื่นๆ คู่เงิน Forex ส่วนใหญ่จะอาศัยการเทรดตามแนวโน้มหรือเทรนด์ โดยที่นักเทรดสามารถใช้เทคนิค วิธีการเทรด และอินดิเคเตอร์ที่หลากหลายในการระบุและคาดการณ์แนวโน้มต่างๆ

ในบทความวันนี้ เราจะพาทุกท่านไปเรียนรู้วิธีการหาแนวโน้มแบบง่ายๆ พร้อมเครื่องมือ (อินดิเคเตอร์) ที่สำคัญต่อการวางกลยุทธ์การเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จ

วิธีคาดการณ์แนวโน้ม Forex

แนวโน้มหรือเทรนด์ Forex จะเกิดขึ้นเมื่ออัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นหรือลดลง โดยอาจเกิดขึ้นในกรอบเวลาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ในตลาด (เช่น ข่าว, สถานการณ์ทางการเมือง, เศรษฐกิจของประเทศ และอื่นๆ)

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว นักเทรดสามารถใช้วิธีการหรือเทคนิคที่หลากหลายในการหาแนวโน้ม FX วันนี้เราขอนำเสนอเทคนิคสำคัญที่นักเทรดส่วนใหญ่เลือกใช้ ดังนี้:

เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages)

จุดตัดของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving average หรือ MA) เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเปิดคำสั่งเทรดจากการคาดการณ์แนวโน้ม Forex โดยเทคนิคนี้ถูกออกแบบมาเพื่อประเมินจังหวะที่เส้นระยะสั้นตัดผ่านหรือเคลื่อนต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว:

  1. เมื่อค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นอยู่เหนือเส้นระยะยาว นั่นเป็นสัญญาณว่าราคาอาจมีแนวโน้มในการปรับตัวขึ้น
  2. หากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว จุดตัดดังกล่าวจะส่งสัญญาณว่าราคาอาจเปลี่ยนเป็นเทรนด์ขาลง
Industry-best trading conditions
Deposit bonus
up to 200% Deposit bonus 
up to 200%
Spreads
from 0 pips Spreads 
from 0 pips
Awarded Copy
Trading platform Awarded Copy
Trading platform
Join instantly

หากพิจารณาจากจังหวะที่กล่าวไปข้างต้น เราจะสามารถระบุจุดกึ่งกลางของเทรนด์ได้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่จึงเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้ม Forex ที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดรายวันหรือ Day Trade

โมเมนตัม (Momentum)

โมเมนตัมเป็นอีกหนึ่งตัวบ่งชี้ยอดนิยมที่เทรดเดอร์มักใช้ในการคาดการณ์แนวโน้ม FX อยู่เป็นประจำ เมื่อนำมาใช้ร่วมกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่จะช่วยให้นักลงทุนคำนวณโมเมนตัมและคาดการณ์แนวโน้มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดย MACD เป็นหนึ่งในเครื่องมือโมเมนตัมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการวัดความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นและระยะยาว ที่สำคัญ อินดิเคเตอร์นี้ยังช่วยให้เราคำนวณแนวโน้มทั้งขาขึ้นและขาลงของตลาด FX โดยใช้การตั้งค่าอินดิเคเตอร์แบบเบื้องต้นได้อีกด้วย

แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance)

กลยุทธ์นี้เป็นเทคนิคพื้นฐานในการหาแนวโน้มที่มักนำมาปรับใช้กับกลยุทธ์ Forex หลายๆ แบบ เนื่องจากช่วยระบุได้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนกำลังเคลื่อนผ่านระดับแนวรับหรือแนวต้านก่อนหน้าอย่างไร โดยแนวรับจะเป็นระดับราคาต่อจำนวนอุปสงค์ (Demand) ส่วนแนวต้านคือระดับราคาที่สัมพันธ์ระหว่างอุปทาน (Supply) และราคาสกุลเงินนั่นเอง

ประเด็นที่ควรรู้ในการใช้เทคนิคนี้ คือ:

  1. เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นเหนือเส้นแนวต้าน จะเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มจะเป็นขาขึ้น
  2. หากราคาเคลื่อนทะลุแนวรับ เป็นสัญญาณว่าเทรนด์ราคาจะเป็นขาลง

คู่สกุลเงินจะมีความผันผวนตามอารมณ์ของตลาด ขณะที่สินทรัพย์ Forex สามารถซื้อขายได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง แม้นักเทรดบางส่วนอาจมองว่าการระบุแนวโน้มของราคานั้นไม่ใช่เรื่องง่าน แต่ก็มีวิธีการหรือเคล็ดลับที่จะช่วยให้ท่านเทรดสำเร็จ

เคล็ดลับคือการนำเทคนิคต่างๆ มาใช้ร่วมกัน ตัวอย่างเช่น การนำความเคลื่อนไหวของราคาและค่าเฉลี่ยเคลื่อนมาระบุแนวโน้มขาขึ้น หรืออีกเทคนิคคือการใช้จุดตัดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่กับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่อยู่ ณ ตำแหน่งสูงกว่า การใช้อินดิเคเตอร์ร่วมกันนี้จะส่งสัญญาณยืนยันได้ว่าราคาอาจเป็นเทรนด์ขาขึ้นในไม่ช้า

วิธีดูความแข็งแกร่งของเทรนด์

แน่นอนว่าการระบุแนวโน้มมีความสำคัญต่อการคาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรดี สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการวิเคราะห์ว่าเทรนด์นั้นๆ กำลังจะสูญเสียหรือมีโมเมนตัมเพิ่มเติมมากน้อยขนาดไหน เพื่อช่วยบ่งบอกว่าราคาจะทะลุผ่านระดับแนวรับและแนวต้านไปได้จริงหรือไม่ ทำให้นักเทรดสามารถคาดการณ์ได้ว่าเทรนด์จะมีการดำเนินต่อไป หรือเทรนด์ราคากำลังจะมีการกลับตัว

นักลงทุนสามารถใช้เทคนิคต่างๆ ในการระบุความแข็งแกร่งของแนวโน้ม FX ได้ โดยใช้เครื่องมือที่เราได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้ ท่านสามารถใช้เทคนิคที่ได้รับการยืนยันแล้วเพื่อให้เทรดได้แม่นยำมากขึ้น

มาดูความแตกต่างระหว่างขาขึ้น (Bull) vs. ขาลง (Bear)

เทคนิคนี้อาศัยการวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของของขาขึ้น (Bull หรือกระทิง) และขาลง (Bear หรือหมี) ในระยะของแนวโน้ม โดยในการประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้ม Forex ท่านต้องตระหนักถึงประเด็นดังต่อไปนี้:

  • หากตัวแท่งเทียนไม่ทับซ้อนกัน เป็นสัญญาณว่าแนวโน้มมีความแข็งแกร่ง เนื่องจากราคาไปในทิศทางเดียวกันแทนที่จะกลับตัว
  • อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าแนวโน้มนั้นแข็งแกร่งคือเมื่อแท่งเทียนเป็นไส้เทียนขนาดเล็กหรือไม่มีไส้
  • หากแท่งเทียนมีขนาดเท่ากัน ก็อาจเป็นการบ่งบอกว่าแนวโน้มนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี อย่างไรก็ตาม หากแท่งเทียนมีขนาดใหญ่กว่าแท่งก่อนหน้า ก็อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดอาจมีการปรับตัวลง และอาจบ่งบอกได้ว่าตลาดกำลังจะเกิดความผันผวนมากขึ้น
  • นักเทรดที่ใช้กรอบเวลารายวันเป็นหลักอาจเห็นบางจังหวะที่ราคาไม่มีช่องว่างหรือ Gap ระหว่างแท่งเทียน นั่นหมายความว่าแนวโน้มราคาจะดำเนินต่อไปในทิศทางเดิม

การกลับตัวหลอก

นักเทรดไม่ควรมองข้ามการกลับตัวหลอกในกราฟ Forex เช่นเดียวกับการเบรคหลอกหรือ False break เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวสามารถบอกเกี่ยวกับแนวโน้มได้ โดยท่านจะต้องวิเคราะห์การกลับตัวแบบหลอกๆ โดยคำนึงถึงลักษณะและรูปแบบต่อไปนี้:

  • ราคาจะไม่ปิดเกินเส้นแนวโน้ม
  • หลังทะลุเส้นเทรนด์ (Trendline) ราคาจะไม่กลับตัวทันที แต่อาจเคลื่อนที่แบบ Sideway ก่อน
  • ราคาเกิดการกลับตัวอย่างหนักก่อนจะกลับมาอยู่ในทิศทางเดิมในทันที
  • ราคากลับตัวอย่างรวดเร็วมาที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ก่อนจะเคลื่อนที่ออกจากเส้นดังกล่าวในไม่ช้า

สรุปเกี่ยวกับแนวโน้ม FX

นักเทรด Forex สามารถเลือกอินดิเคเตอร์และเครื่องมือต่างๆ เพื่อคาดการณ์แนวโน้มหรือเทรนด์ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือจะต้องเข้าใจด้วยว่าเทรนด์นั้นจะทำให้ท่านได้กำไรหรือขาดทุน ที่สำคัญ การวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของแนวโน้ม FX ก็มีความสำคัญเช่นกัน แต่ข้อดีคือมีวิธีการวิเคราะห์แนวโน้ม และกลยุทธ์การเทรด รวมถึงเครื่องมือทางเทคนิคที่หลากหลายให้เลือกใช้ ทำให้ง่ายต่อการวิเคราะห์เทรนด์มากยิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่, การเคลื่อนไหวของราคา หรือตัวบ่งชี้โมเมนตัมไปจนถึงการวิเคราะห์การกลับตัวแบบหลอกๆ เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้ท่านมั่นใจว่าสามารถคาดการณ์แนวโน้มของเทรนด์และตัดสินใจเทรดได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน