ความเชื่อมั่นของตลาดยังมีทิศทางเป็นบวกในช่วงเช้าวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนต่างเตรียมตัวสำหรับการรายงานข้อมูลและเหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์นี้ และด้วยเหตุนี้ นักลงทุนในตลาดจึงยังทรงตัวจากการเคลื่อนไหวในช่วงก่อนหน้า ท่ามกลางช่วงวันหยุดของญี่ปุ่นและปฏิทินเศรษฐกิจที่เบาบาง
อย่างไรก็ตาม ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) กำลังอยู่ในช่วงทรงตัวจากการปรับตัวสูงขึ้นก่อนหน้า ท่ามกลางความคาดหวังว่า Fed จะทำให้ตลาดผิดหวัง ซึ่งเหตุผลส่วนใหญ่สืบเนื่องมาจากการคาดการณ์ว่า Fed จะดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น อีกทั้ง ข่าวสารที่มีการรายงานออกมาในหลากหลายทิศทางเกี่ยวกับจีนและความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ลดลงกำลังสร้างแรงกดดันด้านลบต่อดอลลาร์สหรัฐฯด้วยเช่นกัน
จากสถานการณ์นี้ คู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD ขยายการพุ่งสูงขึ้นของสัปดาห์ก่อนหน้า ในขณะที่คู่เงิน USDJPY ดึงดูดความสนใจอย่างมาก โดยแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปีเหนือระดับราคาที่ 160.00 ก่อนที่จะปิดตลาดในวันนี้ด้วยการร่วงลงมากกว่า 1.0%
นอกจากนี้ คู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน NZDUSD ยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ การร่วงลงของคู่เงิน USDCAD ยังไม่ชัดเจนนัก ท่ามกลางราคาน้ำมันดิบที่ลดต่ำลง ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของแคนาดา อีกทั้ง ราคาทองคำยังร่วงลงครั้งแรกในรอบ 3 วัน หลังจากยุติแนวโน้มขาขึ้น 5 สัปดาห์
ในอีกทางหนึ่ง BTCUSD ยังคงถูกกดดันต่อเนื่องหลังจากช่วงแนวโน้มขาลง 4 สัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับท่าทีของ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ในการควบคุมการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี อย่างไรก็ตาม ETHUSD ชะลอการพุ่งสูงขึ้นในรอบสัปดาห์โดยร่วงลงเล็กน้อย ขณะที่ค่าธรรมเนียม Ethereum ปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
บรรยากาศความระมัดระวังก่อนการประกาศนโยบายการเงินจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) และรายงานการจ้างงานรายเดือนของสหรัฐฯ ทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯชะลอตัวจากการพุ่งขึ้นสูงสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯในวันศุกร์ปรับตัวดีขึ้นในเดือนมีนาคม และส่งผลให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ปิดตลาดวันศุกร์ด้วยการพุ่งขึ้นสูงสุด ถึงกระนั้น การทรงตัวของตลาดก่อนการประชุม Fed ยังส่งผลกระทบต่อตัวชี้วัดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯมีทิศทางเป็นบวก Lael Brainard ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทำเนียบขาว (WH) ระบุว่าการพูดถึงการลดต้นทุนยังคงมีอยู่ ซึ่งเมื่อรวมกับความผิดหวังของตลาดจากดัชนีราคา PCE พื้นฐานของสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้นจากความคาดหวังที่เพิ่มมากขึ้นจากตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ดีขึ้น ยังทำให้เกิดแรงกดดันต่อแรงเทซื้อดอลลาร์สหรัฐฯอีกด้วย
นอกเหนือไปจากดัชนีราคา PCE พื้นฐานแล้ว ตัวเลขการคาดการณ์ GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐฯที่เพิ่มสูงขึ้นจากโมเดล GDPNow ของธนาคารกลางสหรัฐฯประจำแอตแลนตา ยังช่วยให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯชะลอการร่วงลงครั้งแรกในรอบสามสัปดาห์ แม้ว่าโมเดล GDPNow ของธนาคารกลางสหรัฐฯประจำแอตแลนตาได้คาดการณ์การเติบโตของ GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 2 อยู่ที่ 3.9% อย่างไรก็ตาม โมเดลนี้คาดการณ์การเติบโตของ GDP ไตรมาส 1 ไว้ที่ 2.7% แต่ตัวเลขที่ออกมาจริงอยู่ที่ 1.6% ซึ่งจะท้าทายความคาดหวังเกี่ยวกับสภาพการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯและการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงหลัง
ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐฯได้รับแรงหนุนจากตัวเลขดัชนีราคา PCE พื้นฐานของสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง ตลาดหุ้นสหรัฐฯพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของ Fed ตรงตามคาดการณ์ของตลาด เมื่อเทียบกับความคาดหวังที่จะได้เห็นตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากข้อมูล GDP และ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯมีทิศทางเป็นบวก ด้วยเหตุนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจึงปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ นำโดยดัชนี Nasdaq ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน
ในอีกทางหนึ่ง คู่เงิน USDJPY พุ่งทะลุระดับราคาที่ 160.00 แตะระดับสูงสุดในรอบ 34 ปี ก่อนที่จะร่วงลงกว่า 1.5% ระหว่างวันโดยลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 156.00 การดึงกลับอย่างรวดเร็วของคู่เงิน USDJPY อาจเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงตลาดโดยทางการญี่ปุ่นเพื่อพยุงค่าเงินเยน รวมไปถึงการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯก่อนการรายงานข้อมูลและกิจกรรมสำคัญประจำสัปดาห์นี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้จะเป็นช่วงวันหยุดในญี่ปุ่น แต่การเคลื่อนไหวของตลาดเอเชียยังคงคึกคัก แม้จะมีปฏิทินเศรษฐกิจที่เบาบางก็ตาม อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างระหว่างการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กับการปกป้องนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ประกอบกับข่าวที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Fumio Kishida สูญเสียเก้าอี้ในสภาผู้แทนราษฎร 3 ตำแหน่งสำคัญ ยังส่งผลให้ค่าเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) อ่อนค่าลง อีกทั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น Kazuo Ueda ยังได้กล่าวถึงโอกาสที่อาจจะได้เห็นการอ่อนค่าของเงินเยนเป็นเวลานาน
ในช่วงสุดสัปดาห์ กำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนลดลงอย่างน่าประหลาดใจในเดือนมีนาคม จาก 10.5% YoY สำหรับเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ เป็น -3.5% YoY โดยเมื่อรวมกับตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกของจีนในเดือนดังกล่าวจะเป็นการท้าทายการฟื้นตัวล่าสุดของสินค้าโภคภัณฑ์และสกุลเงิน Antipodeans ตลอดจนทดสอบการพร้อมรับความเสี่ยงของตลาดอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การอ่อนตัวของเงินดอลลาร์สหรัฐฯก่อนการประชุม FOMC และการรายงานข้อมูล NFP ดูเหมือนว่าจะทำให้ดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์แคนาดายังคงแข็งค่าขึ้น
การดึงกลับของเงินดอลลาร์สหรัฐฯและความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้นส่งผลให้เงินยูโรและเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ยังคงแข็งค่าขึ้น แต่ราคาทองคำกลับถอยตัวลงจากอุปสรรคที่เส้น EMA10 วัน ในขณะที่เตรียมพร้อมสำหรับการรายงานปัจจัยเศรษฐกิจที่สำคัญของสัปดาห์นี้ ในขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบกลับไม่ได้รับแรงหนุนจากการดึงกลับของดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Fed โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากดัชนีราคา PCE พื้นฐานของสหรัฐฯพุ่งสูงขึ้นเมื่อวันศุกร์ รวมไปถึงปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ถดถอยลง ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์มีการรายงานข่าวว่าการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอล-ฮามาสมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยข่าวดังกล่าวอ้างถึงการมาถึงกรุงไคโรของผู้นำกลุ่มฮามาสในวันจันทร์ ในขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลกล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า แผนการโจมตีราฟาห์อาจถูกเลื่อนออกไป ในกรณีที่มีความคืบหน้าในข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอล
การขาดการรายงานข้อมูล/เหตุการณ์สำคัญ ช่วงวันหยุดของญี่ปุ่น และตำแหน่งของปัจจัยสำคัญทางเศรษฐกิจประจำสัปดาห์นี้อาจจำกัดการเคลื่อนไหวของตลาดในวันจันทร์ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นที่มีทิศทางที่ดีขึ้นและการอ่อนค่าลงล่าสุดของเงินดอลลาร์สหรัฐฯคาดว่าจะยังคงดำเนินต่อไป อย่างไรก็ตาม การรายงานค่าเบื้องต้นของอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีประจำเดือนเมษายนและดัชนีภาคการผลิตของ ธนาคารกลางสหรัฐฯประจำดัลลัสในเดือนดังกล่าวจะกระตุ้นโมเมนตัมของนักลงทุนในตลาด
ภาพรวมตลาดสัปดาห์นี้ คาดว่าสภาพคล่องจะปรับลดลงก่อนการประชุม FOMC ในวันพุธและรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ (NFP) ในวันศุกร์ แต่ถึงกระนั้น ราคาทองคำน่าจะกลับมาปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯอาจอ่อนค่าลงต่อไป เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า Fed ดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดจนมากเกินไปในช่วงที่ผ่านมา ทำให้โอกาสที่ตลาดจะผิดหวังจากการประกาศรายงานการประชุมของ FOMC นั้นมีอยู่สูง อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตด้วยว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่ง และ Fed ปฏิเสธที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย สิ่งนี้ก็อาจกระตุ้นให้ดอลลาร์สหรัฐฯกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !