ตลาดยังคงอยู่ในเกณฑ์บวก แม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ขณะที่ประธานเจอโรม พาวเวล และลาการ์ด ประธานแบงก์ชาติยุโรป (ECB) มองแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น โดยความกล้าในการเปิดรับความเสี่ยงในตลาดหลักๆ มาจากการเจรจาสันติระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และยอดผู้ติดเชื้อโควิดในจีนที่ลดลงต่อเนื่อง รวมถึงความมุ่งมั่นที่จะดันให้เศรษฐกิจขยายตัว แต่ขาขึ้นยังคงมีอุปสรรคจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมือง และผู้นำทั่วโลกที่ยังยืนกรานที่จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับรัสเซีย
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ได้บวกเพิ่มตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed แต่ดันให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวต่อเนื่อง และทำให้ราคา AUDUSD พุ่ง โดยมีแรงหนุนหลักจากตัวเลขจ้างงานออสเตรเลีย
ทองคำฟื้นตัวดีขึ้นหลังเป็นขาลงนาน 3 วันติดต่อกัน ขณะที่น้ำมัน Brent ปรับบวกเป็นวันแรกในรอบ 4 วัน
ดัชนี Nasdaq เป็นดัชนีที่ปรับขึ้นสูงสุดในรอบสัปดาห์ ขณะที่ Nekkei ญี่ปุ่น และ Hang Seng ฮ่องกงหนุนให้กองทุนรวมของเอเชีย-แปซิฟิกฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดยุโรปค่อนข้างซบเซาและปรับตัวลงเล็กน้อย
BTC พุ่งทำราคา High ในรอบสัปดาห์ ขณะที่ ETH แตะราคาสูงสุดเดิมของวันก่อนหน้า ก่อนจะเริ่มแกว่งตัวอยู่ ณ ระดับเดิม
มาดูความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์หลักในตลาดการเงิน ได้แก่:
การหารือเกี่ยวกับแผนการเจรจาสันติระหว่างรัสเซีย-ยูเครนช่วยพยุงให้อารมณ์ตลาดอยู่ในเกณฑ์บวก ก่อนที่พาวเวล ประธาน Fed จะกล่าวถึงความหวังในการปรับลดอัตราเงินเฟ้อถึงแม้จะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 6 ครั้งในปี 2022 นี้
ยอดผู้ติดเชื้อในจีนที่ลดลงและการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงินช่วยให้ตลาดเริ่มคงที่, หนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์และหุ้นเทคโนโลยีที่กำลังเผชิญความยากลำบาก รวมทั้งผลักดันให้ตลาดเอเชีย-แปซิฟิกเปิดรับความเสี่ยงต่อเนื่อง ขณะที่รัฐมนตรีญี่ปุ่นใช้แผนทางอ้อมในการทำให้เงินหมุนเวียนคล่องขึ้น ซึ่งช่วยส่งเสริมอารมณ์ตลาดในประเทศญี่ปุ่น
น่าเสียดายที่ตลาดยุโรปยังไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นได้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของยุโรปที่พุ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ในเดือน ก.พ. ขณะที่ OECD แถลงว่าตัวเลขเศรษฐกิจโลกลดลงถึง 1.0% โดยมีสาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้นักลงทุนในบรัสเซลยังมองข้ามความพยายามของประธาน ECB ในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ทิศทาง BTC และ ETH นั้นยังไม่แน่ชัด เนื่องจากยังไม่มีการสรุปที่แน่นอนเกี่ยวกับการเก็บภาษีคริปโตในอินเดีย ขณะที่นักลงทุนพยายามจะผลักดันให้มีการลดภาษีเงินได้จากคริปโตลง 30% รวมถึงภาษีในการทำธุรกรรม 1.0%
หลังเฝ้าจับตาความผันผวนในตลาดมาสัปดาห์กว่าๆ และผ่านหลายเหตุการณ์สำคัญที่มีผลต่อตลาดการเงิน เป็นไปได้ว่านักลงทุนน่าจะเริ่มได้ผ่อนคลายกันบ้างเมื่อปัจจัยกระตุ้นเริ่มเบาบางในช่วงปลายสัปดาห์นี้ และจะได้พักผ่อนกันเต็มที่ในวันหยุดสุดสัปดาห์
อย่างไรก็แล้วแต่ เชื่อว่าเหตุการณ์รัสเซีย-ยูเครน, การประชุมนโยบายการเงินของแบงก์ชาติญี่ปุ่น (BOJ) และความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อก็อาจทำให้นักเทรดพอได้ลุ้นต่อไป
ติดตามเทรนด์ตลาดจาก โบรกเกอร์อันดับ 1 ในเอเชีย ด้วยเงื่อนไขการเทรดชั้นนำ:
ขอให้คุณโชคดีในการซื้อขาย!