บรรยากาศการซื้อขายเช้าวันพุธยังคงค่อนข้างเป็นไปในทิศทางที่ดี เป็นผลมาจากการไม่มีสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดจากธนาคารกลางสหรัฐฯและไม่มีข่าวเชิงลบที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในตลาด นอกจากนี้ สิ่งที่ช่วยให้นักลงทุนยังมีความหวังคือ ข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจล่าสุดจากประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ตัวเลขส่วนใหญ่บ่งชี้ว่า ภาคบริการมีการขยายตัว ซึ่งช่วยให้มองเห็นภาพรวมเศรษฐกิจที่ดีขึ้น รวมไปถึงยังมีแรงกดดันด้านราคาอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ตกต่ำลงและช่วง blackout ของ Fed ระยะเวลานานสองสัปดาห์นั้นส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะช่วยพยุงดอลลาร์สหรัฐฯในภายหลังก็ตาม
ด้วยเหตุนี้ คู่เงิน EURUSD จึงชะลอตัวจากการพุ่งสูงขึ้นรายวันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบสัปดาห์ท่ามกลางแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในขณะที่ คู่เงิน GBPUSD ยังขาดทิศทางที่ชัดเจนหลังจากพุ่งสูงขึ้นมากที่สุดในรอบวันนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023 นอกจากนี้ แม้ว่าคู่เงิน USDJPY จะขยับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 34 ปีอีกครั้ง แต่ยังคงผันผวนท่ามกลางสัญญาณที่หลากหลายจากการคาดการณ์การเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) และข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่น่าประทับใจนักจากญี่ปุ่น
อีกทางด้านหนึ่ง คู่เงิน AUDUSD พุ่งขึ้นสูงสุดในบรรดาคู่สกุลเงิน G10 ท่ามกลางข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ คู่เงิน NZDUSD ปรับตัวขึ้นเช่นกันท่ามกลางตัวเลขดุลการค้าของนิวซีแลนด์ (NZ) ที่ปรับตัวดีขึ้น โดย คู่เงิน USDCAD พุ่งสูงขึ้นครั้งแรกในรอบหกวันขณะที่ดีดตัวจากระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ แม้ว่าราคาสินค้าส่งออกหลักของแคนาดาอย่างน้ำมันดิบจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
นอกจากนี้ ราคาทองคำฟื้นตัวจากเส้น 21-SMA โดยยุติการร่วงลงติดต่อกันสองวัน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังคงขยับตัวขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน
ทางฝั่งของสกุลเงินดิจิทัล BTCUSD มีราคาเสนอซื้อเป็นบวกโดยพลิกกลับการถอยกลับของวันก่อนหน้าจากระดับสูงสุดประจำสัปดาห์ ในขณะที่ ETHUSD พุ่งสูงขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน แม้ว่าจะมีความกังวลว่า ก.ล.ต. สหรัฐฯจะชะลอการอนุมัติ Ethereum ETF ออกไป ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นเชิงบวกในตลาดคริปโตอาจเกี่ยวข้องกับข่าวที่ว่ากลุ่มประเทศ BRICS กำลังพิจารณาเปิดตัว Stablecoin สำหรับการชำระหนี้การค้าระหว่างประเทศ
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ หลังจากร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันก่อนหน้า ขณะที่ นักลงทุนในตลาดต่างรอคอยการรายงานคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯประจำเดือนมีนาคม
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯร่วงลงมากที่สุดในรอบสัปดาห์ ขณะที่ได้รับผลกระทบจากการรายงานตัวเลขค่าดัชนี PMI เดือนเมษายนจาก S&P Global ที่ตกต่ำและยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนมีนาคม นอกจากนี้ การที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) งดการออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินในช่วง blackout สองสัปดาห์ก่อนการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้าอาจสร้างแรงกดดันด้านลบต่อดอลลาร์สหรัฐฯด้วยเช่นกัน อีกทั้ง การรักษาเสถียรภาพระยะสั้นในตะวันออกกลาง ตลอดจนการไม่มีพาดหัวข่าวเชิงลบที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในตลาดจากจีนและรัสเซีย ยังจำกัดการเร่งรีบของตลาดที่หันเหไปยังดอลลาร์สหรัฐฯเนื่องจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง ยูโรกลับได้รับประโยชน์จากการรายงานตัวเลขค่าดัชนี PMI ที่ปรับตัวดีขึ้นของเยอรมนีและกลุ่มประเทศยูโรโซน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ ECB ยังมีความพยายามในการชะลอการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางของในภูมิภาคออกไป และด้วยเหตุนี้ คู่เงิน EURUSD จึงปรับตัวสูงขึ้นล่าสุด โดยประธาน Deutsche Bundesbank สมาชิกสภาปกครองของ ECB Joachim Nagel ได้กล่าวว่าเขาจำเป็นต้องมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังกลับสู่เป้าหมายก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในทางกลับกัน รองประธาน ECB Luis de Guindos กลับยืนยันการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน โดยกล่าวว่า “หากไม่มีเรื่องน่าประหลาดใจใดๆ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนถือเป็น 'ความสำเร็จ'”
ในอีกทางหนึ่ง คู่เงิน GBPUSD ปรับตัวสูงขึ้นอย่างน่าสังเกตในวันอังคาร ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในปี 2024 โดยสืบเนื่องมาจากตัวเลขค่าดัชนี PMI ของสหราชอาณาจักรที่ปรับตัวดีขึ้นประกอบกับความเห็นที่สนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ซึ่งเจ้าหน้าที่ของ BoE ที่ออกมาแสดงความเห็นในทิศทางดังกล่าวยังรวมไปถึง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์ Huw Pill และ Jonathan Haskel ผู้กำหนดนโยบาย อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจของรอยเตอร์ชี้ว่า นักวิเคราะห์จำนวน 31 จาก 63 คน คาดการณ์ว่า BoE จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนมิถุนายน ซึ่งเมื่อร่วมกับความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรก็อาจจะส่งผลกระทบต่อคู่เงินเคเบิลด้วยเช่นกัน
ทางฝั่งหนึ่ง คู่เงิน USDJPY ไม่ได้รับแรงหนุนจากดัชนีราคาผู้ผลิตภาคบริการ (PPI) ของญี่ปุ่นที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมไปถึงรายงานของคณะรัฐมนตรีที่คาดการณ์ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะอยู่ที่ระดับปานกลาง ท่ามกลางมุมมองที่หลากหลายเกี่ยวกับทิศทางการดำเนินการครั้งต่อไปของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) หลังจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบหลายปี
ทั้งนี้ คู่เงิน AUDUSD ปรับตัวขึ้นเป็นระยะเวลา 3 วันติดต่อกัน แตะจุดสูงสุดใหม่ในรอบสัปดาห์ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อรายไตรมาสของออสเตรเลียสามารถคลายความกังวลเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ ในขณะเดียวกัน คู่เงิน NZDUSD ก็ปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขดุลการค้าของนิวซีแลนด์ที่มีทิศทางที่ดีขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศความเชื่อมั่นเชิงบวกอย่างระมัดระวังของตลาด
อีกทางด้านหนึ่ง วุฒิสภาสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายมูลค่า 95,000 ล้านดอลลาร์เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครน อิสราเอล และไต้หวัน แม้ว่าข่าวดังกล่าวน่าจะท้าทายความเชื่อมั่นเชิงบวกของตลาดในช่วงท้ายของวันอังคาร แต่กลับไม่ได้รับแรงหนุน เนื่องจากไม่มีการตอบรับจากรัสเซีย จีน และตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ผู้อำนวยการเอฟบีไอของสหรัฐฯ คริสโตเฟอร์ เรย์ ยังแสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายเช่นเดียวกับที่เห็นในรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าราคาทองคำไม่ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ และยังร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ท่ามกลางการขาดความเชื่อมั่นในตลาด ถึงกระนั้น ความเชื่อมั่นของตลาดที่ดีขึ้นยังช่วยให้ XAUUSD สามารถดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายของวัน ในขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน ท่ามกลางแนวโน้มความต้องการพลังงานที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องมาจากตัวเลขดัชนีผู้จัดการการผลิต (PMI) ที่มีทิศทางเป็นบวกโดยรวม รวมถึงข้อมูลสินค้าคงคลังภาคเอกชนในวันอังคารที่แสดงให้เห็นถึงการดึงสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้น
แม้ว่าการขาดการรายงานความเคลื่อนไหวของ Fed จะจำกัดการเคลื่อนไหวของตลาด แต่รายงานคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯในเดือนมีนาคมและตัวเลขยอดค้าปลีกของแคนาดาในเดือนกุมภาพันธ์จะยังคงมีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาด นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่งอาจทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯชะลอการร่วงลงล่าสุดและท้าทายการฟื้นตัวของสินค้าโภคภัณฑ์และสกุลเงิน Antipodeans แต่ดอลลาร์แคนาดา (CAD) อาจไม่ได้รับแรงหนุนจากตัวเลขยอดค้าปลีกของแคนาดาที่แข็งแกร่ง เว้นแต่ว่าจะมีตัวเลขการรายงานที่ปรับตัวขึ้นดีมาก เนื่องจากธนาคารกลางแคนาดายังดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ในอีกทางหนึ่ง พาดหัวข่าวที่ส่งผลต่อความเสี่ยงของตลาดจากรัสเซีย จีน และตะวันออกกลางอาจช่วยให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นได้
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !