EURUSD พุ่งสูงขึ้นไปที่ระดับสูงสุดในรอบเดือนก่อนการรายงาน PMI ของสหภาพยุโรป/สหรัฐฯ

ตลาดโลกยังผันผวนในวันศุกร์นี้ ในขณะที่ความเคลื่อนไหวของนักลงทุนทั่วโลกชะลอตัวลงหลังจากการเผยแพร่ข่าวเศรษฐกิจและแถลงการณ์ของธนาคารกลาง อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงถูกกดดันให้อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 5.5 เดือน ขณะที่ติดตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ตกต่ำลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางการพูดคุยเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยไว้ไม่เปลี่ยนแปลงตามการคาดการณ์ของตลาด ในขณะที่ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯและการเรียกร้องค่าสวัสดิการทดแทนการว่างงานมีตัวเลขที่สูงขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นการฟื้นตัวของเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า คู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD ยังคงทรงตัว ส่วนทางด้าน คู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน USDCAD นั้นอยู่ในสภาวะซบเซาก่อนการรายงานค่าดัชนี PMI ที่สำคัญจากเยอรมนี ยูโรโซน สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ราคาทองคำยังร่วงลงจากการพุ่งสูงขึ้นล่าสุดเนื่องจากจีนส่งสัญญาณถึงความผันผวน ในขณะที่ช่วงแนวโน้มขาลงของดอลลาร์สหรัฐฯชะลอตัวที่ระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน ถึงกระนั้น ราคาน้ำมันดิบก็ยังขยับตัวสูงขึ้นท่ามกลางความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์และความหวังว่าจะได้เห็นการลดอุปทานเพิ่มเติมจาก OPEC+ รวมไปถึงการพูดคุยเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน

ในอีกทางหนึ่ง หุ้นในฝั่งเอเชียแปซิฟิกยังคงพุ่งสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็ติดตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและหุ้นฟิวเจอร์สของสหรัฐฯที่มีจังหวะเป็นบวกเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม BTCUSD และ ETHUSD ได้ร่วงลงเนื่องจากความพร้อมของ SEC สหรัฐฯในการประเมินการอนุมัติ Spot ETF อีกครั้ง

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) อยู่ในช่วงแนวโน้มขาขึ้นสามวัน ขณะที่พุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยที่ประมาณ $77.00
• ทองคำ (Gold) ราคาทองคำล่าสุดยังคงร่วงลงที่ประมาณ $2,038 หลังจากพุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์เมื่อวันก่อนหน้า
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) ฟื้นตัวที่ระดับต่ำสุดในรอบ 4.5 เดือน โดยยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนที่ 102.00
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดบวกเช่นเดียวกันกับ หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร พุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้นของวัน
• BTCUSD และ ETHUSD ร่วงลงเล็กน้อยที่ประมาณ $42, 700 และ $2,270 ตามลำดับ

ดอลลาร์สหรัฐฯยังคงถูกกดดัน...

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม แม้ว่ายอดค้าปลีกและการเรียกร้องค่าสวัสดิการทดแทนการว่างงานของสหรัฐฯจะมีตัวเลขที่ดีขึ้นท่ามกลางเสียงเรียกร้องที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในต้นปี 2024 ในสถานการณ์นี้ มาตรตัวชี้วัดของดอลลาร์สหรัฐฯเทียบกับสกุลเงินหลักหกสกุลอย่าง DXY จึงไม่ได้รับประโยชน์จากการที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)

เมื่อพูดถึงข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยอดค้าปลีกในเดือนพฤศจิกายนมีการเติบโตอย่างน่าประหลาดใจที่ 0.3% MoM เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ -0.1% และ -0.2% ของการรายงานก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกที่ไม่รวมถึงยอดขายรถยนต์หรือที่เรียกว่ายอดค้าปลีกหลักก็เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ -0.1% และ 0.0% ของการรายงานก่อนหน้าเป็น 0.2% ในเดือนดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ กลุ่มควบคุมการค้าปลีกจึงเพิ่มขึ้น 0.4% จาก 0.0% ในเดือนตุลาคม อีกทั้ง จำนวนคำขอค่าสวัสดิการการว่างงานในสัปดาห์สิ้นสุดของเดือนในวันที่ 8 ธันวาคมลดลงเหลือ 202K เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 220K และ 221K ของการรายงานก่อนหน้า ในขณะที่จำนวนคนที่ยังคงได้รับค่าสวัสดิการการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายวันที่ 1.876M เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของตลาดที่ 1.887M และการรายงานก่อนหน้านี้ที่ 1.856M

ในอีกทางหนึ่ง การผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนมีการเติบโตอย่างโดดเด่นที่ 6.6% ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 5.6% และ 4.6% ของการรายงานก่อนหน้า ขณะที่ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 10.1% ในเดือนดังกล่าว เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของตลาดที่ 12.5% และ 7.6% ของการรายงานครั้งก่อน ถึงกระนั้น ตัวเลขตลาดที่อยู่อาศัยยังคงบ่งบอกถึงความเจ็บปวดในภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศจีน

อีกทางด้านหนึ่ง เมื่อวันก่อน ECB และ BoE ต่างก็ประกาศว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง แต่อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของ ECB ในการลดโครงการจัดซื้อสินทรัพย์ฉุกเฉินสำหรับโรคระบาดใหญ่ (Pandemic Emergency Purchase Programme – PEPP) โดยเฉลี่ยต่อเดือนที่ 7.5 พันล้านยูโร และการเอนเอียงไปทางการดำเนินนโยบายการเงินที่ไปในทางเข้มงวดของประธาน ECB Christine Lagarde นั้นยังช่วยรักษาระดับค่าเงินยูโรและส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประธาน Fed Jerome Powell มีท่าทีเห็นด้วยกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ตัวเลขค่าดัชนี PMI ของออสเตรเลียที่ปรับตัวดีขึ้นแต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 50.0 ได้บ่งชี้ถึงการหดตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ความกังวลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ BoJ ยังพยุงแรงเทขายคู่เงิน USDJPY แม้ตัวเลขค่าดัชนี PMI ของญี่ปุ่นในเดือนธันวาคมจะมีความผันผวนก็ตาม

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD
• สัญญาณขายแรง: ETHUSD, GBPUSD, Gold
• สัญญาณซื้อ: USD Index, Nasdaq, USDJPY
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, BTCUSD, AUDUSD, EURUSD

PMIs อยู่ในความสนใจ

การรายงานตัวเลขกิจกรรมเศรษฐกิจครั้งแรกของเดือนธันวาคมจะกระตุ้นนักลงทุนในตลาดในวันศุกร์นี้หลังจากสัปดาห์ที่ผันผวน อีกสิ่งสำคัญที่ควรจับตามองก็คือ ดัชนีการผลิตของ Empire State และรายละเอียดการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐอเมริกา โดยเป็นเรื่องที่น่าสังเกตว่ารายงานตัวเลขค่าดัชนี PMI ของสหรัฐฯและข้อมูลเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นอาจทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯสามารถฟื้นตัวได้ ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดการดึงกลับของคู่เงิน EURUSD และราคาทองคำได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่ตกต่ำลงอย่างน่าประหลาดใจยังคงช่วยพยุงช่วงแนวโน้มขาลงของดอลลาร์สหรัฐฯไว้ได้ในช่วงสุดท้ายของปี 2023

ในอีกทางหนึ่ง ความกังวลทางเศรษฐกิจของยูโรโซนและสหราชอาณาจักรอาจท้าทายเงินยูโร (EUR) และเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ได้ หากข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดการเผยแพร่ไว้นั้นมีตัวเลขที่น่าผิดหวัง

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !