การพูดคุยเรื่องเพดานหนี้รอบต่อไประหว่าง Biden และประธานสภาผู้แทนราษฎร อาจทำให้ตลาดการเงินสั่นคลอนได้ แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างมีความคิดเห็นไปในทางแง่ดีในการผ่านร่างกฎหมายเลื่อนระยะเวลา แต่ขณะเดียวกันพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตต่างก็มีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันค่อนข้างมาก ข้อเท็จจริงนี้ทำให้นักลงทุนต่างรู้สึกสับสน
แล้วเราควรคาดหวังอะไรจากการเจรจาเพดานหนี้รอบล่าสุด? จากที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่ายังไม่มีการตกลงกัน ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขากล่าวว่ามีสิ่งกีดขวางที่หลากหลายที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายห่างไกลจากข้อตกลงอีกด้วย
ในขณะที่ประธานาธิบดี Biden กำลังวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายที่เสนอโดยสภาในฮิโรชิมา McCarthy ตั้งข้อสังเกตว่าการโทรพูดคุยของเขากับ “ Sleepy Joe ” นั้นค่อนข้างมีประสิทธิผล ไม่ว่าจะหมายความว่าอย่างไรก็ตาม สิ่งที่เรารู้แน่นอนก็คือ Biden ไม่สามารถให้สัญญากับพันธมิตรทั่วโลกของเขาได้ว่าสหรัฐฯจะไม่ผิดนัด
โดยทางออกที่เป็นไปได้ที่จะช่วยให้สหรัฐฯหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระได้ ได้แก่ การเรียกร้องการแก้ไขครั้งที่ 14 ซึ่งถ้าหากการเจรจาไม่ได้ผล ในทางกลับกันมาตรการนี้อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีสำหรับประธานาธิบดีตามที่ Janet Yellen รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ระบุว่าเมื่อคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอนและเส้นตายที่เข้มงวดขึ้นที่สหรัฐฯกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
ซึ่งการเดิมพันนี้สูงมาก หากทั้งสองฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการระงับหรือเพิ่มเพดานหนี้ ผลที่ตามมาอาจคาดเดาไม่ได้ กล่าวง่ายๆ ก็คือ กระทรวงการคลังของสหรัฐฯกลัวว่าจะไม่สามารถชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดภายในวันที่ 1 มิถุนายน ซึ่งกำหนดการนี้ฟังดูเหมือนเป็นเส้นตายที่ยากและรัดกุมมาก
ทั้งนี้หากผิดนัดชำระหนี้ พลเมืองสหรัฐฯมากกว่า 7 ล้านคนจะตกงาน ในขณะที่การสูญเสียความมั่งคั่งของแต่ละครัวเรือนจะเกิน 10 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้อัตราดอกเบี้ยอาจสามารถพุ่งสูงกว่า 6% โดยคาดว่า Fed จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2%
ทั้งหมดนี้จะนำไปสู่ความผันผวนอย่างมากในตลาดทองคำ ส่วนทางด้านฟิวเจอร์สซื้อขายภายใต้แรงกดดันหลังจากคงที่ที่ $1973.70 (ลดลง $7.90)
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !