ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ

ทำความรู้จักทฤษฎี Neo Wave แบบละเอียด! พร้อมเรียนรู้ Neo Wave Pattern

ขอต้อนรับนักเทรดมือใหม่และเทรดเดอร์มืออาชีพทุกท่าน วันนี้เราจะมาพูดคุยแบบละเอียดเกี่ยวกับทฤษฎี Neo Wave, รูปแบบกราฟ Neo Wave รวมถึงอธิบายเกี่ยวกับทฤษฎี Elliott wave (ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับทฤษฎี Neo wave นั่นเอง)

None

มาลองดูกันว่าทฤษฎีทั้ง 2 ทฤษฎีนั้นมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร และทำไมทฤษฎี Neo Wave จึงมีความสำคัญกับระบบการเทรดของท่าน

บทความนี้เราจะมาร่วมทำความเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างทฤษฎี Neo wave และทฤษฎี Elliott wave ที่เทรดเดอร์มืออาชีพหลายรายนิยมใช้ในการคาดการณ์แนวโน้ม หรือเทรนด์ล่วงหน้าจากการวิเคราะห์คลื่นในกราฟราคา ถ้าพร้อมแล้วล่ะก็… ไปลุยกันเลย!

Neo Wave Theory คืออะไร

ข้อควรรู้

  • ทฤษฎี Neo wave เป็นหนึ่งในรูปแบบวิธีการวิเคราะห์กราฟเทคนิค
  • ใช้เพื่อระบุรูปแบบ หรือแพทเทิร์นราคา
  • สังเกตแพทเทิร์นราคาจากรูปแบบของ ‘คลื่น’
  • นอกจากการคำนวณแล้ว ความคิดเห็น หรืออารมณ์ของนักเทรดยังเป็นตัวบ่งบอกการคาดการณ์ได้เช่นกัน
  • Elliott wave ใช้คาดการณ์ทิศทางที่ราคากำลังวิ่งไป

เราขอแนะนำให้เทรดเดอร์ทำความเข้าใจทฤษฎี Elliott wave ก่อน เนื่องจากจะช่วยให้ท่านเข้าใจหลักการของทฤษฎี Neo wave ได้ดียิ่งขึ้น

ทฤษฎี Neo wave มีหลักการที่ค่อนข้างซับซ้อนกว่าทฤษฎี Elliott wave โดยทฤษฎีดังกล่าวเป็นหนึ่งในรูปแบบการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคที่เทรดเดอร์มืออาชีพใช้เพื่อระบุรูปแบบของราคาที่ปรากฎเป็นรูปคลื่นในกราฟราคา อีกทั้งยังแปรผันอย่างต่อเนื่องไปตามอารมณ์ของนักเทรดในตลาดนั่นเอง

พูดง่ายๆ ทฤษฎี Elliott wave ใช้ในประเมินสภาพอารมณ์ของนักลงทุนในตลาด ว่านักลงทุนเหล่านั้นมีความรู้สึกตอบสนองต่อการลงทุนอย่างไร โดยมีคลื่นเป็นตัวบ่งบอกความเปลี่ยนแปลงของความคิดเห็นในภาพรวมเกี่ยวกับการลงทุน และการเปลี่ยนแปลงแพทเทิร์นราคาโดยทั่วไป

ทฤษฎี Elliott wave เป็นการตั้งข้อสันนิษฐานว่าเราสามารถคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นได้ เนื่องจากว่าราคาเคลื่อนที่เป็นแพทเทิร์นขึ้นและลงไปเรื่อยๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลื่น ดังนั้น เราจึงสามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาจะเคลื่อนที่อย่างไรต่อไป

ความเชื่อมโยงระหว่างทฤษฎี Elliott Wave และทฤษฎี Neo Wave

ข้อควรรู้

  • ทฤษฎี Neo wave พัฒนาต่อมาจากทฤษฎี Elliott wave
  • ทฤษฎี Neo wave มีเงื่อนไขและรายละเอียดมากกว่า
  • ทฤษฎี Elliott wave มีความแม่นยำน้อยกว่า
  • ทฤษฎี Neo wave มีความแม่นยำมากกว่า

R.N. Elliott ผู้คิดค้นทฤษฎี Elliott wave ได้กล่าวไว้ว่า “ตลาดหุ้นไม่ได้เคลื่อนที่แบบสุ่มสี่สุ่มห้า แต่มีรูปแบบการเคลื่อนที่ที่ชัดเจน มีระบบ พิสูจน์ได้ด้วยตัวเลข Fibonacci

หากสังเกตความเคลื่อนไหวของราคาบนกราฟ จะเห็นได้ว่าราคามีพฤติกรรมการเคลื่อนที่เป็นรูป ‘คลื่น’ โดยลักษณะความเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่: Impulsive wave และ Corrective wave

อย่างไรก็ตาม ยิ่งโครงสร้างของตลาดมีความซับซ้อนมากเท่าไหร่ ประสิทธิภาพในการคาดการณ์ทิศทางราคาโดยใช้ทฤษฎี Elliott wave ก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น เนื่องจากทฤษฎี Elliott wave มักประกอบไปด้วยความคิดเห็นที่เอนเอียง รวมถึงความไม่แม่นยำอื่นๆ อีกด้วย

ดังนั้น นักลงทุนหลายๆ รายจึงใช้ทฤษฎี Neo wave เข้ามาช่วย โดยทฤษฎีดังกล่าวมีกฎระเบียบและหลักการที่ต้องพิจารณากว่า 15 ข้อ ที่ใช้ในการระบุรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคา

การใช้ทฤษฎี Neo wave จึงเป็นการคิดค้นกลยุทธ์ในการพิจารณารูปแบบความเคลื่อนไหวของราคาแบบใหม่ เพื่อให้การคาดการณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น

ทฤษฎี Neo Wave

ข้อควรรู้

  • ทฤษฎี Neo Wave Theory ใช้เพื่อให้เห็นภาพของตลาดแบบจับต้องได้มากยิ่งขึ้น
  • เพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์พฤติกรรมของราคาในอนาคต
  • มีรูปแบบกราฟหลายรูปแบบ
  • เวลาเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับทฤษฎี Neo wave 

Industry-best trading conditions
Deposit bonus
up to 200% Deposit bonus 
up to 200%
Spreads
from 0 pips Spreads 
from 0 pips
Awarded Copy
Trading platform Awarded Copy
Trading platform
Join instantly

ทฤษฎี Neo wave จัดเป็นการวิเคราะห์คลื่นแบบใหม่ที่ถูกคิดค้นโดย Glenn Neely ซึ่งยืนยันว่าหลักการนี้ใช้คาดการณ์ความเคลื่อนไหวของราคาได้แม่นยำกว่า และเป็น Indicator ที่ใช้พิจารณาแนวโน้มคลื่นที่มีความน่าเชื่อถือมากเลยทีเดียวครับ

นั่นก็เพราะว่าทฤษฎีดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อลดความไม่มั่นคงทางด้านอารมณ์ของนักเทรดในทฤษฎี Elliott wave เพื่อให้สามารถวิเคราะห์คลื่นได้แบบจับต้องได้และมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้นในการคาดการณ์โดยอาศัยการวิเคราะห์คลื่น

อย่างไรก็ตาม ทฤษฎี Neo wave มีเงื่อนไขรายละเอียดและปัจจัยเพิ่มเติมที่เทรดเดอร์จะต้องพิจารณาประกอบการวิเคราะห์ รวมถึงมีรูปแบบกราฟหลายรูปแบบ เช่น 3rd Extension Terminal, 5th Failure Terminal และ 3rd Extension Terminal เป็นต้น

ปัจจัยด้านเวลาก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญของทฤษฎี Neo wave เนื่องจากว่าระยะเวลาที่แตกต่างกันของกราฟแต่ละรูปแบบนั้นสามารถใช้วิเคราะห์ได้ว่าแพทเทิร์นดังกล่าวจะสมบูรณ์หรือไม่

โดยในทฤษฎีดังกล่าว หากแพทเทิร์นมีระยะเวลานานจนเกินไป หรือแพทเทิร์นสิ้นสุดเร็วจนเกินไป นั่นหมายความว่ามันไม่ใช่แพทเทิร์นแบบเต็มรูปแบบ

หลักการสำคัญของทฤษฎี Neo Wave

  • ยืนยันความถูกต้องในการวิเคราะห์: สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดหลังจากที่ท่านได้ทำการคาดการณ์และเทรดในภายหลัง จะเป็นตัวบ่งบอกล่วงหน้าว่าการวิเคราะห์นั้นถูกต้องหรือไม่
  • พิจารณาเวลาและลิมิต: ระยะเวลาของแพทเทิร์นเล็กๆ (ตามหลักการของทฤษฎี Neo wave) จะต้องไม่นานจนเกินไป เมื่อเปรียบเทียบกับแพทเทิร์นใหญ่ๆ 
  • พิจารณาความเชื่อมโยง: หากท่านสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวอย่างชัดเจนในกราฟราคา นั่นแสดงว่ามีโอกาสที่ราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางดังกล่าวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งท่านควรวางแผนการเทรดตามพฤติกรรมดังกล่าว

แพทเทิร์น Neo Wave คืออะไร?

แพทเทิร์น Neo wave (หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Neo Wave symmetrical formation) เป็นรูปแบบกราฟที่มี 9 ขา ซึ่งไม่ได้รวมกับ x-wave ที่สำคัญ มันจัดเป็นแพทเทิร์นรูปแบบเดียวที่การฟอร์มตัวรูปคลื่นมีความซับซ้อน, ระยะเวลา และราคา เช่นเดียวกัน เหมือนกันในแต่ละคลื่น

ทดลองใช้งานทฤษฎี Neo Wave 

หากท่านพอเริ่มเข้าใจเกี่ยวกับทฤษฎี Neo wave บ้างแล้ว แต่หวังว่าจะเข้าใจมากยิ่งขึ้นหากได้ลองใช้ทฤษฎีดังกล่าวในการเทรด เราขอแนะนำให้ท่านลองใช้บัญชีเดโม่ของ MTrading ดูนะครับ!

เพราะไม่เพียงแค่ว่าท่านจะได้เข้าถึงบรรยากาศการเทรดแบบเสมือนจริงเท่านั้น แต่ยังมีเงินทุนจำลองให้ใช้ทดลองเทรดหุ้นและตราสารรายการอื่นๆ ได้แบบไม่ต้องกังวลว่าจะเสี่ยงขาดทุนจริง ลองสัมผัสประสบการณ์การทดลองลงทุนในตลาดด้วยข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ บนแพลตฟอร์มมาตรฐานอย่าง MetaTrader 4!

ให้ท่านเข้าถึงดราฟเทรดหลายรูปแบบ, สูตรการคำนวณ, กลยุทธ์เทรด, เครื่องมือ, เทคนิคเทรด และอื่นๆ อีกมากมาย วิธีที่ดีที่สุดในการทดสอบทฤษฎี Neo wave เพื่อเปรีนบเทียบกับการวิเคราะห์กราฟเทคนิครูปแบบอื่นๆ เพื่อทดสอบว่าทฤษฎี Neo wave ใช้ได้ผลดีกับกลยุทธ์การเทรดของท่านหรือไม่

และที่สำคัญ เมื่อท่านพร้อมที่จะเทรดทำกำไรจริงในตลาดจริงแล้ว ท่านสามารถเปลี่ยนไปใช้บัญชีจริงได้โดยง่าย ด้วยแพลตฟอร์มของ MTrading ที่ออกแบบมาให้ท่านเปลี่ยนบัญชีเดโม่และบัญชีจริงไปมาได้อย่างสะดวก จะมัวรออะไรอยู่ล่ะ? รีบเลย! เทรดก่อน กำไรก่อน!!

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน