ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ

กลยุทธ์เทรดรายวัน (Intraday Trading) ที่ดีและเหมาะกับสไตล์การเทรดของท่านมากที่สุด

“การเทรดรายวัน” หรือ “Intraday trading” เป็นเทคนิคการเทรดสำหรับนักเทรดรายวัน (Day trader) หรือนักเทรด Scalp ที่เน้นเทรดสัญญาขนาดใหญ่และใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ดีเลยทีเดียว แต่ก็แน่นอนว่ากำไรที่มากขึ้น ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงจากความผันผวนในตลาดที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งจากความเคลื่อนไหวของราคาที่บางครั้งก็ยากที่จะคาดเดาได้

None

การเทรดทำกำไรสไตล์นักเทรด Scalp จะเน้นเทรดในจังหวะที่ราคาวิ่งขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็วในเวลาสั้นๆ ก่อนจะกลับตัวต่อไป ซึ่งจะต้องอาศัยการเฝ้าติดตามกราฟราคาและตลาดอย่างต่อเนื่อง และจะต้องจับตาออเดอร์หรือคำสั่งซื้อขายที่เปิดไว้ให้ดีๆ จึงจะเทรดได้กำไรตรงตามที่คาดหวังไว้

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าการเทรด Intraday นั้นมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง แต่นักเทรด Intraday ทุกรายก็พยายามมองหากลยุทธ์ที่ดีที่สุดมาใช้รองรับกับความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญ เพื่อควบคุมความเสี่ยงเหล่านั้นให้อยู่หมัด และพิชิตกำไรจากการเทรดให้ได้ตามเป้า

สูตรลับกลยุทธ์การเทรดแบบ Intraday

นักเทรดมือใหม่อาจยังไม่ทราบเกี่ยวกับเทคนิคการเทรดดีทั้งหมด ต้องขอบอกว่าท่านสามารถเทรดได้หลายแบบ มีหลายเทคนิคให้เลือกใช้เยอะมากๆ แต่ 2 เทคนิคการเทรดที่เป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์มืออสชีพ ได้แก่:

  • กลยุทธ์การเทรดโดยใช้ Pivot point
  • กลยุทธ์การเทรดโดยอาศัย Fraction theory

อย่างไรก็แล้วแต่ ท่านไม่ควรเลือกใช้กลยุทธ์ใดเพียงกลยุทธ์ใด เพราะนั่นอาจไม่เพียงพอที่จะลดความเสี่ยงในการเทรดได้ แต่ท่านควรนำเทคนิคการเทรดหลายๆ แบบมาปรับใช้ร่วมกัน และยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ควรให้ความสำคัญ ได้แก่:

  1. การสร้าง Mindset ที่ดี เพื่อการันตีความสำเร็จในการเทรด Scalp ซึ่งแน่นอนว่าการจะเป็น Day trader ได้นั้น ท่านจะต้องเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงให้ได้เสียก่อน เพราะเราเชื่อว่าไม่มีนักเทรด Scalp คนไหนที่ไม่เคยเทรดขาดทุนมาก่อน ดังนั้น ท่านจะต้องเตรียมใจเผื่อเอาไว้สำหรับความผิดหวังที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน มิฉะนั้น หากท่านไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ก็อาจทำให้ท่านเทรดขาดทุนมหาศาลได้ในที่สุด
  2. ควบคุมอารมณ์และตั้งสติให้อยู่ แล้วท่านจะมีโอกาสเทรดรายวันให้ประสบความสำเร็จได้เหมือนนักเทรดรายอื่นๆ เพราะความโลภความและความกลัวไม่ได้ส่งผลดีต่อการเทรดรายวันเลยแม้แต่น้อย ดังนั้น ปรับสภาวะอารมณ์ของตัวเองให้ดีก่อนเข้ามาลงทุนเทรดในตลาดแห่งนี้

เห็นไหมล่ะครับว่าท่านจะต้องวางแผนการเทรดให้ดีๆ และเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในระหว่างการเทรด เราขอแนะนำให้ท่านแบ่งสัดส่วนเงินลงทุนให้ดี และไม่ควรนำเงินที่ท่านไม่พร้อมที่จะสูญเสียมาใช้ลงทุนนะครับ อย่างไรก็แล้วแต่ การวางแผนการเทรดจะช่วยให้ไอเดียท่านได้ว่าจุดไหนที่ท่านควรหยุดเทรด หรือควรวางออเดอร์เทรดอื่นๆ เพื่อป้องกันการขาดทุน ซึ่งจะทำให้ท่านลดโอกาสในการขาดทุน และเพิ่มโอกาสในการเทรดให้ได้กำไร

กลยุทธ์การเทรดโดยใช้ Pivot Point

เทคนิคการเทรดโดยใช้ Pivot point อาศัยหลักการหรือทฤษฎี Pivot point ที่นักเทรดหลายท่านคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนั่นเองครับ โดยเครื่องมือ Pivot point จะสร้างจุด Pivot ขึ้นมาเพื่อบ่งบอกระดับราคาของสินทรัพย์ที่น่าจับตามองในวันก่อนหน้า โดยกลยุทธ์นี้มีข้อดีตรงที่ว่าเหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่ เพราะอาศัยการอ่านระดับแนวรับ-แนวต้านแบบง่ายๆ โดยหากราคาย่อต่ำลง แสดงว่าราคาอาจกำลังย่อลงไปหาแนวรับ และหากราคาพุ่งสูงขึ้น ก็หมายความว่าราคากำลังวิ่งขึ้นไปหาแนวต้านนั่นเอง

การเทรด Intraday โดยใช้เทคนิค Pivot point จะมีสูตรเฉพาะในการคำนวณระหว่างราคาปิดของสินทรัพย์นั้นๆ ในวันก่อนหน้า และราคา High และ Low ในปัจจุบัน

สูตรการคำนวณระดับแนวรับ-แนวต้านจาก Pivot point มีดังนี้:

แนวต้าน 1 = (ราคา High + ราคา Low + ราคาปิด/3) x 2 - ราคา Low

แนวต้าน 2 = P + (ราคา High + ราคา Low)

แนวรับ 1 = (ราคา High + ราคา Low + ราคาปิด/3) x 2 - ราคา High

แนวรับ 2 = P - (ราคา High - ราคา Low)

ท่านสามารถนำสูตรคำนวณนี้ไปใช้เฝ้าติดตามการกลับตัวของราคา (Price reversal) ที่อาจเกิดขึ้นใกล้เคียงกับแนวรับและแนวต้านได้นั่นเอง ซึ่งถ้าหากราคามีการแกว่งตัวอย่างรุนแรงจากระดับเหล่านั้น ก็ได้เวลาตั้งออเดอร์ Buy หรือ Sell แล้วรอทำกำไรได้เลยครับ

Industry-best trading conditions
Deposit bonus
up to 200% Deposit bonus 
up to 200%
Spreads
from 0 pips Spreads 
from 0 pips
Awarded Copy
Trading platform Awarded Copy
Trading platform
Join instantly

กลยุทธ์การเทรดโดยใช้ทฤษฎี Fraction point

หลักการนี้ก็จะคล้ายๆ กับหลักการก่อนหน้าเลยครับ นั่นก็คือกลยุทธ์การเทรดโดยนำไอเดียของทฤษฎีที่มีอยู่แล้วมาใช้ ซึ่งก็คือ Fraction theory นั่นเอง โดยทฤษฎีนี้ก็เป็นการคำนวณหาแนวรับและแนวต้านเพื่อดูจังหวะที่ราคาจะมีการกลับตัว เพียงแต่จะมีสูตรการคำนวณที่แตกต่างกันเล็กน้อย โดยการคำนวณ Fraction มีดังนี้:

  1. นำราคา High และ Low หลายๆ ระดับของวันก่อนหน้ามารวมกับราคาปิด
  2. นำผลรวมที่ได้ไปคูณด้วย 0.67
  3. หาค่าคงตัวโดยใช้อัตราส่วน 2:3 แบบเดียวกับในทฤษฎี Pivot point
  4. ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ค่าที่เรียกว่า Y นั่นเอง

คราวนี้ ในการคำนวณหาแนวต้าน 1 ท่านจะต้องนำค่า Y ไปลบกับราคาต่ำสุดของวันก่อนหน้า และในการหาแนวรับ 1 ท่านจะต้องนำค่า Y ไปลบกับราคาสูงสุดสุดในวันที่ผ่านมา จากนั้นในการคำนวณหาจุดซื้อ ท่านจะต้องนำค่า Y - ราคาปิด เพื่อกำหนดระดับแนวต้านนั่นเอง

สรุปเกี่ยวกับกลยุทธ์การเทรด Intraday

จริงอยู่ที่ว่าถึงแม้ท่านจะเลือกใช้เทคนิคหลายๆ แบบในการเทรด แต่นั่นก็อาจไม่สามารถการันตีความสำเร็จในการเทรดได้แบบ 100% แต่การวางกลยุทธ์ให้ดีก่อนเทรดก็มีโอกาสเทรดได้สำเร็จมากกว่าไม่มีกลยุทธ์อะไรเลยใช่ไหมล่ะครับ? ทั้งนี้ทั้งนั้น ท่านก็จะต้องศึกษาและทำความเข้าใจกลยุทธ์และเทคนิคต่างๆ อย่างละเอียด และนอกจากการวางแผนในการเทรดที่ดีแล้ว อย่าลืมควบคุมสติอารมณ์ของท่านให้นิ่ง หมั่นทดลองใช้เครื่องมือเชิงเทคนิคและกลยุทธ์การเทรดใหม่ๆ อยู่เสมอ เพราะอย่าลืมว่าท่านไม่ควรหวังพึ่งแค่กลยุทธ์แบบใดแบบเดียวเท่านั้น ที่สำคัญอย่าลืมนำกลยุทธ์ต่างๆ มาปรับใช้ร่วมกันเพื่อเพิ่มโอกาสให้ท่านเข้าใกล้เส้นชัยในการเทรดให้ได้มากที่สุดนะครับ

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน