ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน ขณะที่ชะลอการร่วงลงในรอบสัปดาห์ ก่อนการรายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญของสหรัฐฯอย่าง ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมิถุนายน โดยสถานการณ์เดียวกันนี้ ยังช่วยยืนยันสัญญาณขาขึ้นจากเส้น 100-SMA ที่ตัดขึ้นเหนือเส้น 200-SMA และเส้น RSI (14) ที่ขยับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม โซนแนวต้านแนวนอนอายุหนึ่งเดือนที่ประมาณ $2,387-93 ประกอบกับสัญญาณ MACD ที่อ่อนตัวลงจะยังคงท้าทายแรงเทซื้อทองคำ หากราคาทองคำยังคงสามารถปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ $2,393 โอกาสที่ราคาจะพุ่งขึ้นแตะระดับราคาที่ราวๆ $2,400 และต่อเนื่องไปยังแนวต้านแนวนอนอายุ 13 สัปดาห์ที่บริเวณ $2,431-34 นั้น จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว น่าสังเกตว่า หาก XAUUSD สามารถทะลุผ่านระดับราคาที่ $2,434 ได้สำเร็จ จะมีโอกาสสูงมากที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง โดยปัจจุบันสถิติสูงสุดซึ่งทำไว้เมื่อเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ประมาณ $2,450
ในทางกลับกัน การดึงกลับของราคาทองคำยังดึงความสนใจไปที่เส้นแนวรับที่เพิ่มสูงขึ้นอายุสองสัปดาห์ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ $2,365 หลังจากนั้น แนวรับถัดไปที่เส้น 100-SMA และ 200-SMA จะทดสอบแรงเทขาย XAUUSD ที่บริเวณ $2,342 และ $2,337 ตามลำดับ หากราคาทองคำยังคงร่วงลงต่ำกว่า $2,337 เทรดเดอร์จะสามารถตั้งเป้าหมายไปที่ระดับราคาที่ราวๆ $2,318 ก่อนที่ระดับราคาจะแตะเส้นแนวรับที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจากช่วงต้นเดือนเมษายนที่ประมาณ $2,298 ถ้าหากราคาทองคำยังคงทิศทางขาลงต่ำกว่า $2,298 ระดับราคาที่ราวๆ $2,265 จะทำหน้าที่เป็นแนวรับสุดท้ายของแรงเทซื้อ
สรุปภาพรวม ราคาทองคำยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น ก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ หากตัวเลขดัชนี CPI ปรับตัวลงหรือมีการรายงานในหลากหลายทิศทาง จะเป็นโอกาสให้แรงเทซื้อทองคำสามารถผลักดันราคาทองคำให้ทะลุผ่านอุปสรรคสำคัญของช่วงขาขึ้นได้