ล่าสุดคู่เงิน GBPUSD อยู่ที่จุดต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งสัปดาห์ ในขณะที่เทรดเดอร์กำลังรอการเปิดเผยข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจในวันพุธนี้ ซึ่งรวมไปถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ S&P Global/CIPS ( S&P Global/CIPS PMI) จากสหราชอาณาจักรสำหรับเดือนสิงหาคม และข้อมูลคำสั่งซื้อโรงงานและตำแหน่งงานว่าง JOLTS ในเดือนกรกฎาคมจากสหรัฐอเมริกา โดยปอนด์สเตอร์ลิงเพิ่งปรับลดลงต่ำกว่าระดับแนวรับสำคัญซึ่งประกอบด้วยเส้นแนวโน้มขาขึ้นอายุหนึ่งเดือน ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแนวต้านไปแล้ว
แม้จะมีการปรับลดลงเมื่อไม่นานมานี้ แต่คู่เงิน GBPUSD ยังคงยืนหยัดได้ดี เนื่องจากรูปแบบกราฟขาขึ้นที่เรียกว่า Falling Wedge และระดับแนวรับหลายระดับ ประกอบกับ อินดิเคเตอร์ MACD ที่สะท้อนถึงแนวโน้มขาลงที่อ่อนตัวลง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนแรงเทซื้อ GBP/USD นอกจากนี้ สัญญาณ RSI ยังแสดงให้เห็นว่าไม่มีการสนับสนุนตลาดที่แข็งแกร่งสำหรับแนวโน้มขาลงในปัจจุบัน
ในขณะที่ รูปแบบ Falling Wedge ระยะสั้นจำกัดการเคลื่อนไหวของคู่เงิน GBPUSD ที่ระดับราคาระหว่าง 1.3080 และ 1.3120 เส้นแนวรับที่เปลี่ยนเป็นแนวต้านจากช่วงต้นเดือนสิงหาคม และระดับราคาแนวราบอายุเจ็ดสัปดาห์จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านเพิ่มเติมที่ประมาณ 1.3150 และ 1.3050-35 ตามลำดับ
นอกจากนั้น เส้น 50-SMA และเส้น 200-SMA อาจท้าทายเทรดเดอร์ที่เน้นเทรดตามโมเมนตัมที่ระดับราคาที่ประมาณ 1.3170 และ 1.2935 ตามลำดับอีกด้วย
ในกรณีที่คู่เงิน GBPUSD ยังคงแข็งแกร่งเหนือระดับ 1.3170 คู่เงินเคเบิลจะพุ่งสูงขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบปีและมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายทางทฤษฎีของการยืนยันรูปแบบ Falling Wedge ที่ระดับประมาณ 1.3300 ต่อไป
ในทางกลับกัน หากราคาปรับลดลงต่ำกว่าแนวรับที่เส้น 200-SMA ที่ราวๆ 1.2935 จะส่งผลให้คู่เงินเคเบิลมีแนวโน้มที่จะร่วงลงไปที่ระดับต่ำสุดของช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ระดับ 1.2800
ในระยะสั้น คู่เงิน GBPUSD อาจยังคงมีแนวโน้มปรับลดลง ถึงกระนั้น ช่วงแนวโน้มขาลงก็กำลังสูญเสียโมเมนตัม ซึ่งความผิดหวังใดๆจากการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจทำให้แรงเทซื้อกลับเข้ามาในตลาดได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่บ่งชี้ถึงช่วงแนวโน้มขาขึ้น