คู่เงิน EURUSD ยังคงอยู่ในเรดาร์ของแรงเทซื้อ แม้ว่าจะยุติแนวโน้มขาขึ้นในช่วงสี่วันที่ผ่านมาก็ตาม เนื่องจากตลาดกำลังรอการแถลงนโยบายการเงินรอบประจำทุกๆสองปีของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) Jerome Powell โดยเส้น RSI (14) ที่ปรับตัวขึ้นและสัญญาณขาขึ้นของ MACD ร่วมกับการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จของระดับราคาเหนือการบรรจบกันของเส้น 100-SMA และเส้น 200-SMA นั้นยังส่งผลให้แรงเทซื้อยังคงมีความหวัง อย่างไรก็ตาม โซนแนวต้านแนวนอนอายุหนึ่งเดือนที่บริเวณ 1.0840-50 จะต้านทานช่วงขาขึ้นของคู่เงินยูโร หลังจากนั้น เส้นแนวโน้มขาลงตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมและมกราคมที่ราวๆ 1.0875 และ 1.0895 ตามลำดับ ตามมาอย่างรวดเร็วด้วยระดับราคาที่ประมาณ 1.0900 จะเป็นอีกแนวต้านที่ช่วงขาขึ้นต้องเผชิญ ก่อนที่ระดับสูงสุดในรอบเดือนก่อนหน้าที่ราวๆ 1.0916 จะท้าทายการปรับตัวสูงขึ้นของคู่เงิน EURUSD ต่อไป ในกรณีที่คู่เงินยูโรยังคงปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1.0916 โอกาสที่จะเกิดการพุ่งสูงขึ้นไปที่ระดับราคาที่ประมาณ 1.1000 จะไม่สามารถมองข้ามไปได้
อีกทางหนึ่ง ระดับเส้น SMA สำคัญที่กล่าวมาข้างต้นประกอบกับระดับ Fibonacci ratio 50% ของช่วงขาขึ้นคู่เงิน EURUSD ระหว่างเดือนตุลาคม-เดือนธันวาคม 2023 จะเน้นย้ำถึงระดับราคาที่ราวๆ 1.0800-1.0790 ว่าเป็นแนวรับสำคัญที่ต้องจับตาดูระหว่างการปรับลดลงใหม่ของราคา หากช่วงแนวโน้มขาลงสามารถรักษาระดับทะลุแนวรับที่ระบุไว้ข้างต้นได้ โอกาสที่ราคาคู่เงิน EURUSD จะร่วงลงอย่างรวดเร็วไปที่ระดับ 1.0750 และระดับค่า Fibonacci retracement 61.8% ที่ประมาณ 1.0710 จะไม่สามารถตัดออกไปได้ อย่างไรก็ตาม เส้นแนวรับที่ลาดเอียงขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2023 ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ราวๆ 1.0680 ดูเหมือนจะยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับช่วงแนวโน้มขาลงยูโรในภายหลัง
สรุปภาพรวม คู่เงิน EURUSD ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แม้จะมีการดึงกลับในช่วงต้นสัปดาห์ ถึงกระนั้น ความพยายามของประธาน Fed ในการฟื้นฟูความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านการส่งสัญญาณการคุมเข้มทางการเงินและ/หรือปฏิเสธความกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจนั้น ยังคงต้องติดตามดูว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ดังนั้น นักลงทุนควรวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบคอบ